DragonFishTalk.com

เข้าชม : 3569

เหินฟ้าไปดูบอลที่อังกฤษ

ผมคิดว่าทุกคนคงมีความฝันส่วนตัวที่อยากทำอะไรบางอย่าง เรื่องบินไปอังกฤษสำหรับผม ถ้าเป็นสมัยยังเด็ก ๆ ก็เรียกได้ว่าไม่เคยคิดเลย จนเมื่อสามสี่ปีก่อน ได้เจอหนังสือเล่มหนึ่ง ที่จุดประกายความคิดว่า อย่างเราตอนนี้ก็ไปได้ นั่นคือหนังสือที่ชื่อว่าแบกเป้ไปดูบอลที่อังกฤษ ด้วยงบ 50,000 บาท ทำให้ผมกลับมาคิดว่า เฮ้ยแบบนี้เราก็ไปได้ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รู้จักน้องคนหนึ่งในเว็บไซท์ ที่เรียนหนังสืออยู่ที่ลิเวอร์พูล และเคยบอกไว้ในชุมนุมชาวหงส์ว่า เพื่อน ๆ ชาวหงส์คนไหนอยากไปดูบอลที่นั่น เขายินดีให้ความช่วยเหลือ

ปี 2554 ก่อนน้ำท่วม เราได้เมล์คุยกันเรื่องฝากซื้อตั๋วบอล แต่ปรากฎว่าน้ำท่วมใหญ่โครงการเลยพับไป แต่เมื่อต้นปีนี้ ผมกับเพื่อนปัดฝุ่นโครงการขึ้นมาอีกรอบ และได้ติดต่อกลับไปอีกครั้ง สุดท้ายเราได้ตั๋วฟุตบอลลิเวอร์พูล นัดเจอเชลซีในบ้านมา 4 ใบ การเดินทางเลยเริ่มต้นขึ้นครับ

ultra7

ความเห็นที่: 1 -

การเดินทางไปต่างประเทศทุกวันนี้ไม่ยากอะไรเลยครับ ตั๋วเครื่องบินใช้ google ช่วยจัดหา แค่เราบอกวันเวลาไปกลับเข้าไป เราจะได้ตั๋วราคาถูกสุดไปจนแพงที่สุด ก็เลือกเอาตามอัธยาศัย ช่วงนี้พวกสายการบินอาหรับกำลังบุกเบิกการเดินทางไปยุโรป ราคาถูกที่สุดที่ผมเจอไปอังกฤษคือ 28,000 บาท ไปกลับ ผมได้สายการบิน Etihad ในราคาสูงกว่านี้เล็กน้อย ส่วนเรื่องที่พักก็จองล่วงหน้าผ่านเว็บ Agoda จ่ายเงินจ่ายทองกันผ่านบัตรเครดิต เท่านี้เราก็เกือบพร้อมเดินทางแล้ว สำคัญทีสุดคือการทำวีซ่าเข้าประเทศอังกฤษ ซึ่งเราสามารถกรอกเอกสาร และนัดหมาย online แล้วต้องไปด้วยตัวเอง เพราะเขาต้องให้เราพิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายรูป ถ้าทุกอย่างครบถ้วยเรียบร้อย เราจะได้วีซ่าในเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ จากนั้น การเดินทางก็เริ่มต้นครับ

ในรูปหน้าตาวิซาไป uk

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:29 ]

ความเห็นที่: 2 -

เที่ยวบินผมออกประมาณ 8 โมงกว่า แต่ต้องไปเช็คอินล่วงหน้าตั้งแต่ประมาณตี 5 คือเอาเอกสารที่เขาส่งเมล์มาไปแลกตั๋ว หรือ Border pass ที่เคาน์เตอร์ Etihad และเอากระเป๋าไปโหลดขึ้นเครื่อง เสร็จเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว แล้วก็ไปหาอะไรกินรองท้องกันสักหน่อย อิ่มแล้วก็เตรียมออกเดินทาง ขั้นตอนการผ่านออกนอกเมืองก็ง่ายขึ้น เมื่่อก่อนต้องคุยกับคน เดี๋ยวนี้ใช้หนังสือเดินทางสแกน แล้วมองกล้องก็ผ่านเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่ต้องเจอเวลาออกนอกประเทศก็คงนี่ครับ รูปเทวดา กับยักษ์ กวนเกษียณสมุทร

ultra7

ความเห็นที่: 3 -

เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งเครื่องจับโบ้ คราวก่อนที่ไปสิงค์โปร์ บินเครื่องเล็กของแอร์เอเชีย ข้างในเหมือนกับรถทัวร์เลย ตัวเครื่องจัมโบ้กว้างกว่ามาก แต่ชั้นประหยัดก็แออัดนิดหนึ่ง เราตัวเล็ก ๆ ก็สบายไป เขาแจกหมอน ผ้าห่ม หูฟังไว้ให้ดูหนังบนเครื่องเรียบร้อย เดินทางไกล ๆ แบบนี้ไม่น่าเบื่อแล้ว แอร์สายการบินนี้ หน้าตาสวยแปลก ๆ ครับ คือเป็นกึ่งฝรั่งกึ่งแขกอาหรับ รูปร่างสูงโปร่ง ก่อนเครื่องบินออกแต่งตัวกันสวยสง่า พอเครื่องบินขึ้น ก็ถอดหมวก ใส่ผ้ากันเปื้อนทำหน้าที่เสิร์ฟ อาหารแทน งานนี้คงสนุกแค่ได้เที่ยว แต่ตอนอยู่บนเครื่องผมว่าไม่สนุกนะ ต้องใจรักด้วยและ

ultra7

ความเห็นที่: 4 -

ตามประเพณีของการบินนะ ต้องถ่ายรูปท้องฟ้าผ่านหน้าต่างเครื่องบินกันหน่อย สูง ๆ แบบนั้น อากาศเย็นติดลบ 30-40 องศาเลย ขอบ ๆ หน้าต่างมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะกันเห็น ๆ

ultra7

ความเห็นที่: 5 -

จอมอนิเตอร์หน้าที่นั่ง ใช้ดูหนัง เล่นเกม และดูรายละเอียดการเดินทาง รูปนี้คือข้อมูลการเดินทาง เมื่อถึงอาบูดาบี ซึ่งผมต้องเปลี่ยนเครื่องที่นี่ ทั้งหมดบินไปห้าพันกว่ากิโลครับ

ultra7

ความเห็นที่: 6 -

สนามบินอาบูดาบี ครับ แห้งแล้งมาก อากาศก็ร้อนพอ ๆ กับเดือนเมษาบ้านเรา

ultra7

ความเห็นที่: 7 -

จากอาบูดาบี บินไปอีก ห้าพันกว่ากิโล ก็ถึงปลายทางที่สนามบินฮีทโรประมาณหกโมงกว่า ๆ เกือบหนึ่งทุ่มครับ จากตรงนั้น เราต้องขึ้นรถไฟใต้ดิน เข้าไปที่ลอนดอน กระเหรี่ยงไปนอกยืนหมุนอยู่หน้าสถานีพักหนึ่งครับ เพราะไม่มีเหรียญหยอดซื้อตั๋วรถไฟจากเครื่อง เลยไปถามที่เคาน์เตอร์ ก็ปรากฏว่าใช้เงินสดซื้อได้เลย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนรถไฟจะมากับสมาชิกที่ร่วมเดินทางครับ

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:31 ]

ความเห็นที่: 8 -

นั่งรถไฟใต้ดินที่ช่วงแรกวิ่งบนดิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ที่โน่นทุ่มนึงท้องฟ้ายังไม่มืดเลยครับ แรก ๆ ที่ยังไม่มุดดินก็ถือโอกาสชมบ้านเมืองของเขาผ่านหน้าต่าง พอเข้าเมืองรถก็เริ่มมุดลงดิน ปลายทางของเราคือย่าน Kingcross ซึ่งเป็นชุมทางใหญ่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟ Euston ที่เราจะต้องไปขึ้นรถเดินทางไป liverpool พรุ่งนี้ค่ำ ๆ โผล่ที่ Kingcross ประมาณ 2 ทุ่ม อากาศเรียกได้ว่าหนาวเลยครับ ลมก็แรง นี่ขนาดไปเดือนเมษายน ถ้าไปหน้าหนาวเขาผมตายแน่ ๆ

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:32 ]

ความเห็นที่: 9 -

ลอนดอนเป็นเมืองท่องเที่ยวครับ ถึงจะค่าครองชีพสูง แต่ก็มีโรงแรมเล็ก ๆ ประเภทที่เรียกว่า BB หรือ Bed and Breakfast ที่ราคาไม่แพง ระดับสองเตียงห้องน้ำในตัวพร้อมอาหารเช้า คืนละพันกว่าบาทเท่านั้น โชคดีที่ช่วงที่ผมไปเงินบาทแข็งขึ้นมาเป็น 45 บาทต่อปอนด์ ทุกอย่างถือว่าราคาไม่แพงทั้งนั้นครับ และยิ่งจองล่วงหน้าไปก็ยิ่งสะดวกมาก ใครไปลอนดอนผมแนะนำที่นี่เลยครับ สะอาด สะดวก และไม่แพง

ultra7

ความเห็นที่: 10 -

โรงแรมนี้อยู่ในซอยตรงข้ามสถานีรถไฟ Kingcross เลย ออกจากสถานีมาเดินอีกนิดเดียวเอง จากนี่เราจะเดินทางไปไหนก็ง่ายมาก ๆ ห้องน้ำ ห้องนอนเล็กนิดหน่อย แต่ก็สะอาดดีมีให้ทุกอย่าง เตียงสองเตียงพร้อมผ้าห่มหนา ๆ ห้องน้ำ มีน้ำอุ่นพร้อมสบู่และแชมพู ผ้าเช็ดตัวพร้อม ในห้องบริการชา กาแฟชง พร้อมกาน้ำร้อน (รู้สึกเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกที่) ใครไปหลาย ๆ วันเตรียมมาม่าไปก็ต้มน้ำร้อนชงได้สบาย ช่วงกลางคืนที่โน่นมันตรงกับช่วงเช้าบ้านเรา เพราเวลาห่างกันประมาณ 6 ชั่วโมง แต่เนื่องจากเดินทางมา 13 ชั่วโมงโดยไม่ได้หลับเลยบนเครื่องบิน พอหัวถึงหมอน ผมก็หลับครับ มาตื่นช่วงตี 3 พวกเราบางคนเริ่ม line กัน จำได้ว่าลุกมาคุยไลน์อยู่พักนึง พอบอกที่โน่นตี 3 ก็มีคนไล่ให้ไปนอนต่อ

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:32 ]

ความเห็นที่: 11 -

ที่สำคัญคือ อาหารเช้าฟรีครับ โรงแรมเขาเป็นตึกแถว 2 ห้องติดกัน กั้นแบ่งห้องแล้ว ชั้นใต้ดินเป็นห้องอาหารเล็ก ๆ น่ารัก มีแม่ครัว หน้าตาน่ารักมาถามว่าจะรับชาหรือกาแฟ อาหารเช้าด้วยไหม อาหารเข้าก็นี่ล่ะครับ ไข่ดาว หมูแฮม ไส้กรอก ขนมปัง และถั๋วต้มซอส นอกจากนี้ก็มีพวกซีเรียลให้เราตักเองด้วย ทั้งหมดนี้ราคาต่อหัวคือ 1,620 บาทครับ ถูกที่สุดในสี่คืนที่เราไปพักกัน

ultra7

ความเห็นที่: 12 -

หลังอาหารเช้า เราวางแผนการเดินทางกันครับ อยู่ที่โน่นกลางเมืองเราใช้บริการรถไฟใต้ดินโดนซื้อตั๋ว 1 วันใช้บริการได้ทั้งวันจนถึงเที่ยงคืน มาลอนดอนทั้งนี้ต้องเดินเที่ยวให้ทั่วครับ ว่าแล้วเราจับรถไฟไปขึ้นที่สถานี Embankment แล้วออกเดินไปที่จตุรัสทราฟาลก้า ที่เป็นที่ตั้งของเสาปูนเนลสัน และหอศิลป์แห่งชาติ แวะถ่ายรูปกันแถวจตุรัส กับรูปปั้นสิงห์โต กับน้ำพุ มองตรงไปไกล ๆ เห็นบิ๊กเบน ที่เราตั้งเข็มว่าจะเดินไปดูใกล้ๆ ให้เห็นกะตา ว่ามาถึงลอนดอนแล้ว

ultra7

ความเห็นที่: 13 -

เดินกับไปเรื่อย ๆ แบบมั่ว ๆ ครับ ไม่ได้ติดแผนที่มาด้วย ไม่รู้ว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำคัญเลย ผ่านตรงนี้เห็นคนมุง ๆ กันเยอะแยะ มันคือบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ทำเนียบนายกอังกฤษ ที่เห็นมามุง ๆ คือเขามาประท้วงอะไรกันสักอย่าง บรรยากาศไม่ตึงเครียดเหมือนประท้วงแถวบ้านเราเลย

ultra7

ความเห็นที่: 14 -

ถัดไปเป็นกรมทหารม้ารักษาพระองค์ลอนดอน มีทหารม้า กับม้ายืนนิ่งให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกัน โชคดีที่เพื่อนร่วมทริปเป็นช่างภาพครบ เลยมีภาพแบบนี้กับเขาบ้าง

ultra7

ความเห็นที่: 15 -

คนลอนดอนไม่บ้าตึกสูงระฟ้าครับ ใจกลางลอนดอนมีแต่ถนนเล็ก ๆ แต่ก็ไม่เห็นรถจะติด อาคารบ้านเรือนก็สวยงาม ไม่มีตึกสูง ๆ ให้เกะกะสายตาและทำให้รถติด ดูเหมือนเขาพยายามรักษาสภาพบ้านเมืองของเขาไว้ หรือไม่ก็แยกส่วนที่เป็นย่านธุรกิจออกจากย่านเมืองเก่า เดินสุดถนนเราก็มาถึงอาคารรัฐสภา ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ซึ่งเจ้านาฬิกาบิ๊กเบน เป็นส่วนหนึ่งของอาคาร ซึ่งสวยงามมาก

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:34 ]

ความเห็นที่: 16 -

ตัวอาคารรัฐสภาครับ สวยมาก เรายืนถ่ายรูปกันอยู่แถวนี้พักใหญ่เลย ถึงแม้จะเดินกันไกล แต่อากาศเย็น แต่ทำให้การเดินไกล ไม่เหนือยมากครับ

ultra7

ความเห็นที่: 17 -

ตัวอาคารตั้งอยู่ริมสะพานข้ามแม่น้ำครับ ฝั่งตรงข้ามก็เป็นลอนดอนอาย ดวงตาแห่งลอนดอน หรือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ ซึ่งเราไม่ได้แวะไปขึ้น เห็นว่าคิวยาวมาก และหมุนช้า เพื่อให้มีโอกาสเห็นทิวทัศน์ลอนดอนในมุมสูง เสียดายเหมือนกันแต่เวลาเราน้อยครับ

ultra7

ความเห็นที่: 18 -

ระหว่างทางผ่านมหาวิหารเวสมินสเตอร์ครับ คนเข้าแถวรอชมกันยาวเหยียด เราเลยแค่แวะผ่าน มีสาวเอเชียหน้าตาน่ารัก เดินทางคนเดียว ส่งกล้องมาขอให้ถ่ายรูปให้หน่อย แสดงถึงความปลอดภัยของเมืองของเขาครับ อันนี้ลอกมาครับว่ามหาวิหารนี้สำคัญอย่างไร

"นับเนื่องแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มหาวิหารใจกลางกรุงลอนดอนแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญและความผูกพันกับสมาชิกในราชวงศ์อังกฤษในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา

อาคารโบสถ์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1245 ตามพระราชบัญชาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 และนับเป็นสิ่งก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมโกธิกที่สำคัญแห่งหนึ่งของอังกฤษ ในขณะเดียวกันเวสต์มินสเตอร์ก็เป็นสถานที่ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ในปีในปี ค.ศ. 1066 จนกระทั่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระประมุขของสหราชอาณาจักรองค์ปัจจุบันในปี ค.ศ. 1953

มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ หรือชื่อเต็มว่า The Collegiate Church of St Peter, Westminster เป็นหนึ่งในศาสนสมบัติที่อยู่ภายใต้พระราชอำนาจขององค์พระประมุขของประเทศ (Royal Peculiar) โดยที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของบาทหลวงใดๆ และเป็นสถานที่ประกอบพิธีบรมราชาภิเษกมาแล้วทั้งสิ้น 38 ครั้ง อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่ที่ฝังพระศพของกษัตริย์และสมเด็จพระราชินีของอังกฤษมาแล้ว 18 พระองค์

นอกจากนี้ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ยังเป็นที่พักพิงแหล่งสุดท้ายของร่างไร้วิญญาณของบุคคลสำคัญแห่งสหราชอาณาจักร อาทิเซอร์ ไอแซค นิวตัน, ชาร์ลส ดิกเค่น, แซมวล จอห์นสัน, อัลเฟรด เทนนีสัน, เฮนรี เพอร์เซ็ล และทหารนิรนามที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เป็นต้น รวมทั้งเป็นที่รวมของสิ่งก่อสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่สร้างคุณูปการให้ประเทศอย่าง เจน ออสติน, ชาร์ลส์ ดาร์วิน และอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ดํารงตําแหน่งในช่วงสงครามอย่าง วินสตัน เชอร์ชิล"

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:35 ]

ความเห็นที่: 19 -

ไม่น่าเชื่อว่าใจกลางลอนดอนที่เป็นย่านสำคัญของการเมืองการปกครอง จะมีแค่ถนนเส้นเล็ก ๆ พาดผ่านเท่านั้น ตั้งแต่บ้านนายก รัฐสภา มหาวิหาร จนมาถึงสวนเซนเจมส์พาร์ค ที่เรากำลังเดินเลียบไป พอดีบริเวณนี้เตรียมจัดงานลอนดอนมาราธอนเลยมีการปิดกั้นถนนไว้ด้วย ข้างล่างลอกเขามาครับ

"ใกล้ๆ กับสวนเซนต์ เจมส์ มีวัง (palace) สำคัญถึง 3 วัง คือ เวสต์มินสเตอร์ (Westminster) ที่ปัจจุบันกลายเป็นรัฐสภาไปแล้ว (Houses of Parliament) วังเซนต์เจมส์ (St James's Palace) ที่ทำให้การเรียกชื่ออันเกี่ยวเนื่องในราชวงศ์บริทิชยังใช้คำว่า "ราชสำนักเซนต์ เจมส์" กันอยู่เนืองๆ และ วังบัคกิงแฮม (Buckingham Palace) ที่เป็นที่ประทับของราชวงศ์บริทิชมาตั้งแต่ค.ศ. 1837 (แต่ใครไม่รู้เคยบอกเราว่า จริงๆ แล้วควีนไม่ได้ประทับที่นี่หรอก ท่านไปประทับที่วินด์เซอร์นู่น...ที่นี่คงจะใช้รับรองแขกเหรื่อและเป็นที่ทรงงานมากกว่า)"

นั่งพักขากันสักหน่อย เดี๋ยวเราจะหลงไปถึงที่ที่คาดไม่ถึง

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 18:30 ]

ความเห็นที่: 20 -

เดินตรงเลียบสวนเซนต์เจมส์มา เรามาเจออะไรที่เราคาดไม่ถึง เพราะมีฝูงชนมากมายกำลังรุมล้อมดูอะไรสักอย่าง และตำรวจกักเราไว้ไม่ให้ข้ามถนน ไหน ๆ ข้ามถนนไม่ได้เราเลยลองเดินไปดูซิว่าเขามุงดูอะไร ปรากฎว่าเรามาโผล่หน้าพระราชวังบัคกิงแฮม ตรงเวลาใกล้ ๆ เที่ยงที่เขาจะมีการเปลี่ยนเวรทหารรักษาพระองค์หน้าวังพอดีครับ

ultra7

ความเห็นที่: 21 -

รูปนี้ไม่ใช่ฝีมือผมครับ เป็นฝีมือเพื่อนร่วมทางที่แหวกวงล้อมฝรั่งมุงไปจนชิดรั้ววัง แล้วถ่ายออกมาจนได้ ผมว่าคุ้มครับ พอดีแกมีเลนส์ดี ๆ ติดมือไปด้วย

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:36 ]

ความเห็นที่: 22 -

เขาใช้ตำรวจขี่ม้าคอยดูแลความเรียบร้อยของฝรั่งมุงครับ ตำรวจหญิงคนนี้น่ารักครับ ไม่ค่อยดุ ตำรวจชายนี่บอกให้ถอย ๆ ห้ามยืนล้ำเส้นนี้ ห้ามยืนตรงนั้น แล้วไสมาเข้ามาเลย ฝรั่งแตกฮือกันเป็นระยะครับ เจ้าหน้าที่บ้านเขาเอาจริงเอาจังกับการรักษาระเบียบ ถึงจะห้าม แต่เขาสุภาพครับ ไม่เหมือนตำรวจประเทศสารขันธ์

ultra7

ความเห็นที่: 23 -

ถ่ายรูปหมู่หน้าพระราชวัง ข้างหลังเป็นบรรดานักท่องเที่ยวที่กำลังสลายตัว เพราะหมดรอบครับ

ultra7

ความเห็นที่: 24 -

จากตรงนั้น เราถามทางไปห้างแฮรอด ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของลอนดอน เป้าหมายคือการไปหาซื้อของฝากที่ได้รับคำสั่งมา จริง ๆ ให้ไปเองก็ไม่รู้จะไปทำอะไรครับ จากบัคกิ้งแฮม เดินกันไปจนขาลากครับ มาถึงวันแรกยังคึกอยู่มีแรงเดิน อยากเห็นบ้านเมืองเขาด้วยว่าเป็นไง มาถึงตรงนี้ขาลากแล้วครับ ด้านหลังไกล ๆ คือห้างแฮรอด

ultra7

ความเห็นที่: 25 -

สัญญลักษณ์ของห้างครับ นี่คือไปเดินวนข้างในมารอบหนึ่งแล้วออกมานั่งพักอยู่ข้าง ๆ ห้างเขาไม่มีที่จอดรถใหญ่โตไว้รองรับคนมา shopping แต่มีสถานีรถไฟใต้ดินมาโผล่ใกล้ ๆ เลยคือสถานี Knightsbridge อยากรู้อะไรเขามีเจ้าหน้าทีประชาสัมพันธ์คอยนั่งตอบคำถาม คำถามแรกที่ไปถามคือห้องน้ำอยู่ไหน ปวดฉี่มาก ในลอนดอน ห้องน้ำสาธารณะเขาเสียเงินครับ ต้องหยอดเหรียญเข้าไป ครั้งละ 50 เพนซ์ ก็ยี่สิบกว่าบาท ไม่มีคนเฝ้านะครับ มุดลอดเข้าไปก็ไม่มีใครว่า แต่ผมไม่อยากลอง ตรงที่ผมนั่งอยู่นี่เขามีมานั่งให้นั่งพักขา แต่อากาศเย็นมาก ๆ ครับ แม้มีแดดออกเป็นระยะก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 18:50 ]

ความเห็นที่: 26 -

คำสั่งของผมคือไปหาซื้อกระเป๋าแบบนี้ทีกำลังฮิตเลยที่เมืองไทย กับรองเท้านิวบาลานซ์ ปรากฎว่าผมหามาได้แต่กระเป๋าครับ

ultra7

ความเห็นที่: 27 -

ระหว่างทางก็มีร้านค้าเยอะแยะ ส่วนนี่ครับ จอดขายอยู่ในตึกข้างถนน มีอยู่สามคัน

ultra7

ความเห็นที่: 28 -

จากแฮร์รอด จริง ๆ ขาหมดสภาพไปแล้วครับ แต่พอกลับไปถึงที่พักแล้วนั่งกิน Burger King เป็นอาหารเที่ยงก็แล้ว เวลายังเหลือเยอะมาก เพราะรถไฟของเราออกเดินทางเวลาสองทุ่ม สี่สิบห้า เราเลยแวะไปกดตั๋วที่เราจองไว้ออนไลน์มาเก็บไว้ก่อน แล้วแวะไปย่านที่มีเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬาขายเยอะที่สุด เห็นฝรั่งเขาบอกว่าร้านดังในภาพครับ มีเยอะจริง ๆ หลากหลายยี่ห้อ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์กีฬา แต่ผมหาของที่ต้องการไม่ได้เลยออกมานั่งรอ ยืนรอ อยู่นานเลย

ultra7

[ แก้ไขล่าสุด : 24 พ.ค. 2556 - 19:38 ]

ความเห็นที่: 29 -

ร้านนี้อยู่ย่าน Piccadilly circus ฝั่งตรงข้ามเป็นพิพิธภัณฑ์ Belive it or not ครับ ตอนผมนั่งรออยู่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวมานั่งกันรอบรูปปั้นคิวปิดเยอะแยะ มีวัยรุ่นมาเปิดการแสดงเปิดหมวกกัน เป็นอะไรที่แปลกดีสำรับกระเหรี่ยงอย่างผม แต่ขอบอกว่าหนาวมาก ทั้งนั่ง ทั้งยืน ลมเย็น ๆ พัดจนหน้าชาไปหมด

ultra7

ความเห็นที่: 30 -

อันนี้คนจริง ๆ นะครับ ยืนนิ่งตัวแข็งรอนักท่องเที่ยวไปทักทาย หรือถ่ายรูปด้วย ใครสนใจก็ให้สตางค์แกได้

ultra7

ความเห็นที่: 31 -

มีเฟรดดี้ ครูเกอร์ด้วย คนสนใจเยอะกว่า โดยเฉพาะสาว ๆ ครับ ข้างหลังคือรูปปั้นคิวปิด

ultra7

ความเห็นที่: 32 -

เรากลับที่พักหลังจากเลือกซื้อของกันเสร็จแล้วครับ เรื่องการสื่อสารขอแนะนำให้ไปซื้อซิมการ์ดของที่นั่นใช้ เอาแบบเป็นข้อมูลอย่างเดียว รับสายได้ เล่นเน็ตได้ เราจะสามารถส่งข้อความผ่านไลน์ นัดหมายกันได้เผื่อหลงครับ ผมหลงกันหลายรอบก็ได้ไลน์นี่แหละ นำทางมาเจอกัน เก็บของแล้วเรานั่งรถไฟใต้ดินมาที่สถานี Euston เพื่อต่อรถไฟสาย Virgin ไปเมืองลิเวอร์พูลกันครับ เนื่องจากเป็นสถานีรถไฟระหว่างเมือง ผู้คนหนาแน่กันขนาดนี้เลยครับ

ultra7

ความเห็นที่: 33 -

ระยะทางระหว่างลอนดอน กับลิเวอร์พูลคือ 350 กิโลเมตรครับ รถไฟเวอร์จิน วิ่ง 2.45 ชั่วโมงเร็วมาก ๆ เราจองตั๋วกันทางเน็ตก่อนไปนะครับ ที่เลือกออกเดินทางค่ำ ๆ เพราะเผื่อเวลาไว้เที่ยวลอนดอน และค่าตั่๋วช่วงค่ำราคาจะถูกกว่าครับ ที่ผมจองไปกลับไว้ราคาทั้งหมด 77 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3500 บาท พอ ๆ กับตั๋วเครื่องบินเลย แต่สะดวกและรวดเร็วดีครับ รูปนี้ไปหามาจากเว็บนะครับ ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะเป็นช่วงค่ำแล้ว

จบวันแรกในลอนดอนครับ ไม่รู้จะมีคนอ่านไหม เพราะไม่เกี่ยวกับปลาเลย กระทู้หน้าจะมาเล่าเรื่องเมืองลิเวอร์พูล และการไปเที่ยวดูสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดที่เมืองแมนเชสเตอร์ครับ

ultra7